ลักษณะดินและสภาพแวดล้อมที่เหมาะสม
มันสำปะหลังเป็นพืชหัว ผลผลิตที่ใช้ประโยชน์คือ รากที่ใช้สะสมอาหาร เจริญเติบโตได้ดีในดินร่วนปนทราย สภาพดินไม่มีนำ้ขัง มีการระบายอากาศดี มีค่าความเป็นกรดเป็นด่าง (ph) ระหว่าง 5.5 - 8.0 มีความต้องการธาตุไนโตรเจน 10 - 20 กิโลกรัมต่อไร่ ฟอสฟอรัส 6 - 10 กิโลกรัมต่อไร่ และโพแทสเซียม 8 - 12 กิโลกรัมต่อไร่ มีอุณหภูมิระหว่าง 10 - 30 องศาเซลเซียส ปริมาณนำ้ฝน 500 - 2,500 มิลลิเมตรต่อปี
พันธุ์มันสำปะหลัง
พันธุ์ที่นิยมปลูกได้แก่ พันธุ์ระยอง 1 พันธุ์ระยอง 60 พันธุ์ระยอง 90 พันธุ์เกษตรศาสตร์ 50 อายุการเก็บเกี่ยวอยู่ระหว่าง 10-12 เดือน โดยใช้ระยะปลูกดังนี้
- พันธุ์ระยอง 1 ระยะปลูก 100 X 100 เซนติเมตร
- พันธุ์ระยอง 60 ระยะปลูก 60 X 100 เซนติเมตร
- พันธุ์ระยอง 90 ระยะปลูก 80 X 100 เซนติเมตร
- พันธุ์เกษตรศาสตร์ 50 ระยะปลูก 80 X 100 เซนติเมตร
การเตรียมดิน
ทำการไถกลบและพรวนอย่างน้อย 2-3 ครั้ง ลึกประมาณ 20-30 เซนติเมตร เพื่อกลบซากพืชในฤดูก่อน และทำลายวัชพืชต่างๆ ให้ลดจำนวนลง ถ้าพื้นที่มีความลาดชันต้องไถพรวนตามแนวขวาง เพื่อป้องกันการชะล้างของดิน และถ้าดินระบายนำ้ไม่ดี ต้องยกร่องปลูก และทำการปลูกพืชปุ๋ยสดเพื่อปรับปรุงบำรุงดินและตัดวงจรการระบาดของโรค ปุ๋ยพืชสดที่นิยมใช้คือ ถั่วพร้า ในอัตรา 10 กิโลกรัมต่อไร่ หว่านหรือโรยเป็นแนวก่อนปลูกมะนสำปะหลัง แล้วทำการไถกลบเมื่ออายุตรบ 50 วันซึ่งเป็นระยะช่วงที่ออกดอก และปล่อยให้ย่อยสลาย 15 วัน จึงเตรียมแปลงปลูกมันสำปะหลัง หรือใช้ถั่วพุ่ม อัตรา 8 กิโลกรัมต่อไร่ และทำการไถกลบเมื่ออายุ 40 วัน โดยทำวิธีการเดียวกับถั่วพร้า ในขณะเตรียมดินในการปลูกมันสำปะหลัง ให้ฉีดพ่นสารอินทรีย์นำ้ที่ผลิตจากสารเร่ง พด.2 ในอัตรา 5 ลิตรต่อไร่ และนำมาเจือจาง 1:500 และก่อนปลูกมันสำปะหลัง ให้ใส่เชื้อจุลินทรีย์ควบคุมเชื้อสาเหตุโรคพืชระหว่างแถวที่จะปลูกในอัตรา 100 กิโลกรัมต่อไร่ เพื่อป้องกันโรคเน่าและลำต้นเน่าในมันสำปะหลัง
การปลูกมันสำปะหลัง
โดยคัดเลือกต้นพันธุ์มันสำปะหลังที่สมบูรณ์มีอายุแก่ตั้งแต่ 8 เดือนขึ้นไป ตัดลำต้นเป็นท่อนความยาว 15-20 เซนติเมตร แล้วนำไปแช่ในปุ๋ยอินทรีย์น้ำที่เจือจางด้วยน้ำในอัตราส่วน 1:500 หรือ 1:1,000 เป็นเวลา 24 ชั่วโมง แล้วปลูกในพื้นที่ที่เตรียมไว้ โดยนำท่อนพันธุ์ที่เตรียมไว้ปักลงในดินลึกประมาณ 2/3 ของท่อนพันธุ์ ควรระวังอย่าปักส่วนยอดลงดินเพราะตาจะไม่งอก ควรปักตรง 90 องศา หรือปักเฉียง 45 องศา กับพื้นดินให้ผลผลิตไม่แตกต่างกันแแต่จะสะดวกในการกำจัดวัชพืช ง่ายแก่การเก็บเกี่ยว และให้ผลผลิตสูงกว่าการปลูกฝัง 10-15 เปอร์เซ็นต์
การปลูกพืชแซม
หลังจากปลูกมันสำปะหลังได้ 15 วัน ให้ทำการปลูกพืชปุ๋ยสด เช่น ถั่วพุ่ม ถั่วพร้า โรยเป็นแถวแทรกระหว่างแถวมันสำปะหลังเพื่อป้องกันวัชพืช เมื่อพืชปุ๋ยสดอายุตรบ 50 วัน ให้ทำการตัดแล้วนำมาคลุมดินเพื่อรักษาความชื้นของดินและเพิ่มอินทรีย์วัตถุในดิน
ในกรณีพื้นที่ลาดชันหรือมีการชะล้างพังทะลายของดินควรปลูกแฝกเพื่อการอนุรักษ์ดินและน้ำ โดยปลูกในช่วงฤดูฝน ควรปลูกตามแนวในระดับขวางความลาดเทของพื้นที่ภายหลังจากที่ไถเตรียมดินแล้ว โดยขุดหลุมในร่องที่ไถไว้สำหรับเป็นแนวระดับยาวตามพื้นที่ให้แต่ละต้นห่างกัน 5 เซนติเมตร แฝกแนวต่อไปก็จะปลูกขนานกันกับแนวแรก โดยมีระยะห่างขึ้นกับความลาดชันของพื้นที่ เช่น ตามระยะตามแนวดิ่ง คือ 2 เมตร แนวรั้วหญ้าแฝก ณ ความลาดเอียง 5 10 และ 15 เปอร์เซ็นต์ จะอยู่ห่างกัน 40 เมตร 15 เมตร และ 10 เมตร ตามลำดับ ควรระมัดระวังในการไถเตรียมดิน โดยให้รักษาแแนวแฝกไว้ นอกจากนี้ควรตัดใบแฝกอยู่ระดับ 30-50 เซนติเมตร และปลูกแฝกซ่อมแซมให้หนาแน่น แนวรั้วแฝกที่หนาแน่นจะช่วยชะลอ และกระจายน้ำไหลบ่าเพิ่มการแทรกซึมลงสู่ผิวดินรักษาความอุดมสมบูรณ์ของดิน
การดูแลรักษา
ทำการฉีดพ่นปุ๋ยอินทรีย์น้ำให้พืชปุ๋ยสด ในทุก 7 วัน อัตรา 2 ลิตรต่อไร่ เจือจาง 1: 1,000 เพื่อเร่งการเจริญเติบโตของพืชปุ๋ยสด และหลังจากปลูกมันสำปะหลัง 15 วัน ให้ฉีดพ่นปุ๋ยอินทรีย์น้ำให้มันสำปะหลังทางใบและลำต้นหรือรดลงดิน ทุก 1 เดือนจนถึงระยะเก็บเกี่ยว กรณีที่ปลูกพืชแซมระหว่างที่ให้ปุ๋ยอินทรีย์น้ำให้กับมันสำปะหลัง ควรฉีดพ่นปุ๋ยอินทรีย์น้ำให้กับพืชตระกูลถั่วที่ปลูกแซมระหว่างแถวมันสำปะหลังด้วย หากเกิดการระบาดของโรคใบจุดสีน้ำตาล โรคใบจุดใหม้ ใบจุดขาว หรือแมลงต่าง ๆ เป็นต้น ให้ใช้สารสกัดธรรมชาติหรือสารป้องกันและกำจัดศัตรูพืช ส่วนการกำจัดวัชพืชในช่วง 2-3 เดือนแรก สามารถกำจัดได้โดยวิธีกล
การจัดการดินหลังการเก็บเกี่ยว
หลังการเก็บเกี่ยวมันสำปะหลัง ต้องตัดเหง้าและต้นออกแและรีบส่งหัวมันสดเข้าโรงงานทันที ส่วนลำต้นเก็บเอาไว้ทำพันธุ์ต่อไป ส่วนกิ่ง ก้าน ใบ และส่วนที่เป้นตอซัง ให้ไถกลบลงดินทุกครั้งหลังการเก็บเกี่ยว เป็นการเพิ่มอินทรีย์วัตถุให้กับดิน และทำการปรับปรุงบำรุงดิน โดยใช้ปุ๋ยอินทรีย์น้ำ ปุ๋ยพืชสด และใส่เชื้อจุลินทรีย์ป้องกันสาเหตุโรคพืช การใช้ปุ๋ยอินทรีย์์ตามคำแนะนำ จะสามารถช่วยลดการใช้ปุ๋ยเคมีได้ประมาณ 50 เปอร์เซ็นต์ หรือสามารถเพิ่มผลผลิตมันสำปะหลังเพิ่มขึ้น เมื่อเทียบกับวิธีการปฏิบัติเดิมของเกษตรกรได้ประมาณ 20 เปอร์เซ็นต์
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น