วันศุกร์ที่ 24 ธันวาคม พ.ศ. 2553

ตำนาน ความเชื่อ เรื่องเพศ Vagina dentata

ว่าด้วยตำนาน ความเชื่อ เรื่องเพศ

Vagina dentata ยุคสมัยนั้นเปลี่ยนไป เมื่อก่อนก็ใช้เรื่องลึกลับ ความเชื่อต่างๆ เพื่อทำการขู่ และป้องปรามกัน แต่ สมัยนี้ เป็นยุคของข้อมูล ข่าวสาร ความรู้ คนเราจึงไม่เกรงกลัว บาป บุญ คุณ โทษ กันอีกแล้ว

ว่าด้วยเรื่อง Vagina dentata

  • Vagina dentata เป็นภาษา ลาติน แปลว่า Vagina แปลว่าช่องคลอด ส่วน dentata ก็เห็นอยู่ตามหน้าร้านหมอฟัน แปลว่า ฟัน
  • ความ เชื่อในเรื่อง อวัยวะเพศหญิงมีฟัน นี้มีอยู่ในหลายวัฒนธรรม เพื่อเป็นการป้องปราม ว่าการไปมีสัมพันธ์กับหญิงไม่เลือก การไปข่มขืนหญิงอื่น คุณอาจพบกับ หญิงสาวประหลาด ที่มีอวัยวะเพศที่มีฟัน แล้วงับน้องชายขาดก็ได้
  • ตำนานกล่าวไว้ว่า มี Terrible Mother ที่ช่วงล่างของเธอมีปลากินเนื้ออาศัยอยู่ เธอถูกผู้กล้าที่เป็นมนุษย์หนุ่มปราบลง และถูกทำการถอนฟันทั้งหมดออกช่วงล่างของเธอ เพื่อทำให้เธอเป็นมนุษย์ผู้หญิงธรรมดา
  • บางตำนาน กล่าวไว้ว่า ผู้กล้าไม่ได้ทำการถอนฟันจนหมด แต่เหลือไว้ 1 ซี่ (มันเป็นอย่างนี้ เองเข้าใจแล้ว)

เรื่องราวนี้ได้ถูกนำไปสร้างเป็นภาพยนตร์เรื่อง Teeth (ภาพโปรเตอร์ เรื่อง Teeth)

คาดว่าเรื่องราวดังกล่าวน่าจะเป็นแรงบันดาลใจให้แก่ ผู้ออกแบบถุงยางป้องกันการข่มขืนด้วยไม่มากก็น้อยมั้ง

บ้าง ก็มีการโยงเรื่อง Vagina dentata กับ โลโก้กาแฟชื่อดัง Starbucks (เงือก 2 หาง) หางแต่ละข้างแทนขามนุษย์ โดยโลโก้นี้ถูกโจมตีว่ามีการสื่อถึงทางเพศ ทั้งการเปลือยอก การใช้มืออ้าหางออก และมันก็เป็นอะไรที่สอดคล้องกับการที่มีปลาอาศัยอยู่ ที่ช่วงล่าง หรือถ้าไม่ใช่ปลา ก็เป็นเกล็ดปลา และใครที่มีอะไรกับนางเงือกในตำนานฝรั่งก็มักจะตาย

ข้อมูลอ้างอิง
อ้างอิงในส่วน เนื้อหา vagina dentata
http://en.wikipedia.org/wiki/Vagina_dentata

อ้างอิงในส่วน ถุงยางกันข่มขืน
http://io9.com/5568455/vagina-dentata-condom-distributed-at-the-world-cup

อ้างอิงในส่วน โลโก้สตาร์บักส์
http://vanishingnewyork.blogspot.com/2008/04/starbucks-vagina-dentata.html




โถปัสสาวะ ไอเดียสุดเจ๋ง เพื่อสิ่งแวดล้อม ( Urinal and Sink )

เดิ๋ยวนี้อะไรๆ ก็ต้องเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม

Urinal โถฉี่ เองก็ต้องปรับตัวให้เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม จะดีแต่สวยอย่างเดียวมัน Out เสียแล้ว
  • โถปัสสาวะนี้ออกแบบโดย Yeongwoo Kim
  • โดยหลักในการออกแบบคือ การนำน้ำที่ใช้ในการล้างมือจากอ่างล้างมือด้านบนโถฉี่ มาเป็นนำที่ใช้ล้างโถฉี่ด้านล่าง
  • โถ ฉี่นี้ไม่เพียงแต่ ประหยัดน้ำแต่มันยัง ประหยัดพื้นที่ จากแต่ก่อนที่จะเสียพื้นที่ไปสำหรับทั้งโถฉี่ กับอ่างล้างมือ มาเหลือเพียงพื้นที่สำหรับ โถฉี่อย่างเดียว
ข้อมูลอ้างอิง
  • http://www.toxel.com/tech/2010/08/28/urinal-and-sink-combo/



คางคก ที่ เลี้ยงลูกไว้ที่ผิวหนัง ( Surinam toad )

คางคก ที่ เลี้ยงลูกไว้ที่ผิวหนัง

Surinam toad คางคกสุรินัม มันเป็นอะไรที่แปลกโคตรๆ จะไม่แปลกได้อย่างไรในเมื่อพวกมัน เลี้ยงลูกไว้ในผิวหนัง

รายละเอียดเกี่ยวกับ คางคกสุรินัม


  • คางคกสุรินัม มีชื่อทางวิทยาศาสตร์ว่า Pipa pipa
  • คางคก สุรินัม มีอีกชื่อหนึ่งว่า คางคกนิ้วดาว เนื่องจากพวกมันมีพังพืดเชื่อมระหว่างนิ้วเท้าหน้าขนาดเล็ก ทำให้นิ้วเท้าแยกจากกันจนมีลักษณะคล้ายนิ้วแยกเป็น แฉกเหมือนดาว
  • คางคกสุรินัม มีถิ่นอาศัย ทางตอนเหนือ ของ อเมริกาใต้
  • บางครั้งพบคางคกพวกนี้มีลักษณะลีบแบนเหมือนใบไม้ แต่เมื่อมีอาหารอุดมสมบูรณ์พวกมันจะุรูปร่างอ้วน
  • คางคก สุรินัม มีลำตัวมีลักษณะคล้ายสี่เหลี่ยม ส่วนหัวเป็นสามเหลี่ยม มีสีเทาถึงสีน้ำตาลเข้ม ขนาดใหญ่ได้ถึง 20 เซ็นติเมตร แต่โดยทั่วไปจะมีขนาด 10-13 เซ็นติเมตร
การขยายพันธุ์ของ คางคกสุรินัม

  • เมื่อระดับน้ำมีการเพิ่มสูงขึ้น และอุณหภูมิเริ่มเปลี่ยนแปลง จะเป็นสัญญาณให้ คางคกสุรินัมเริ่มขยายพันธุ์
  • ตัวผู้จะส่งเสียงคลิก โดยการเคาะกระดูกไฮออยด์(Hyoid Bone) ในลำคอ เพื่อเป็นการเรียกหาตัวเมียใต้น้ำ
  • เมื่อพวกมันจับคู่กันได้ ตัวผู้จะจับตัวเมียในตำแหน่งด้านหน้า ของ ขาหลัง
  • พวกมันจะว่ายน้ำเป็นวงกลม จากใต้น้ำขึ้นสู่ผิวน้ำ หลายรอบ
  • โดยเมื่อหลังของตัวเมียใกล้ผิวน้ำ ตัวเมียจะปล่อยไข่ออกมา 3-6 ฟอง เพื่อผสมกับน้ำเชื้อของตัวผู้
  • พวกมันจะวางไข่ประมาณ 60 - 100 ฟอง และตัวผู้จะเป็นผู้นำไข่ผสมกับน้ำเชื้อ และนำไปวางบนหลังของตัวเมีย
  • เมื่อเวลาผ่านไปประมาณ 24 ชั่วโมง หลังของตัวเมียจะเริ่มบวม
  • เมื่อเวลาผ่านไป 10 วันไข่จะฟักเป็นลูกอ๊อต อาศัยอยู่ในผิวหนังของ คางคกตัวเมีย
  • เมื่อ เวลาผ่านไป 10 - 20 อาทิตย์ ลูกอ๊อตจะโตเป็น กบ ที่มีขนาดเล็ก ประมาณ 2 เซ็นติเมตร พวกมันจะเริ่ม ออกจากผิวของแม่ เพื่อไปเผชิญโลกโดยลำพัง
คลังภาพคางคกสุรินัม


กบสุรินัม ในช่วงปกติจะมีร่างกายผอมแบนคล้ายใบไม้ หรือซากกบแห้ง


เมื่อไข่ปฏิสนธิ ไข่จะสุกคล้ายเม็ดสาคู บนหลังคางคกตัวเมียดังภาพ


จะเห็นว่า หลังของแม่คางคก จะมีตุ่มเล็กๆสีดำ ก็คือลูกคางคก และที่เห็นเป็นเส้นเล็กชี้ขึ้นมาก็คือ ขาหน้าของลูกคางคก

ข้อมูลอ้างอิง คางคกสุรินัม
อ้างอิงในส่วนเนื้อหา
http://en.wikipedia.org/wiki/Surinam_toad

อ้างอิงในส่วนเนื้อหา การผสมพันธุ์
http://blogs.thatpetplace.com/thatreptileblog/2008/11/07/breeding-a-skin-brooding-amphibian-the-surinam-toad-pipa-pipa/

อ้างอิงในส่วน รูปภาพ
http://www.arkive.org/suriname-toad/pipa-pipa/image-G77526.html




กบขน กบประหลาด มีขนตามลำตัว ติดอาวุธ เล็บแมว (Hairy Frog)

กบประหลาด สุดสยอง

หาก จะกล่าวถึงกระประหลาด และแปลกที่สุดคงจะไม่กล่าวถึง กบขน นั้นไม่ได้แน่ ทำไมก็ธรรมดาถ้านึกถึง กบ ก็คงต้องนึกถึงอะไรที่ผิวเรียบๆลื่นๆ แต่ถ้าพวกมัน กับ ปกคลุมไปด้วยขน แถมมีกงเล็บแหลมคม ที่ซ่อนไว้ในนิ้วเหมือน วูล์ฟเวอรีน ใน X-men มันชักจะไม่ธรรมดาซะแล้วใช่ไหม

รายละเอียดเกี่ยวกับ กบขน

  • กบขน(Hairy Frog)มีชื่อทางวิทยาศาสตร์ว่า(Trichobatrachus robustus)
  • กบขนมีถิ่นที่อยู่อาศัยในตอนกลางของ ทวีปแอฟริกา
  • ปัจจุบัน ถูกคุกคาม และล่าอย่างหนัก โดยชาวแคเมอรูน จะนำพวกมันไปย่างกิน โดยใช้หอกยาวแทง เพื่อป้องกันการถูกพวกมันทำร้ายด้วยกรงเล็บแหลมคมของพวกมัน
  • จากตัวอย่างที่มีหลงเหลืออยู่ กบขน มีขนาดร่างกายยาวประมาณ 11 เซ็นติเมตร มีหัวใหญ่แผ่ออกทางกว้างมากกว่าทางยาว จมูกค่อนข้างมนกลม
  • ตัวผู้มีขนาดใหญ่กว่าตัวเมีย
  • สิ่ง ที่สามารถเห็นได้อย่างโดดเด่นของพวกมันก็คือ เส้นขน ที่โดยแท้จริงแล้วสิ่งที่เห็นนั้นไม่ใช่ ขน แต่เป็นผิวหนังที่ยื่นยาวออกมาของกบเพศผู้ในช่วงผสมพันธุ์ โดย บริเวณผิวหนังที่ยื่นยาวมาคล้ายขนนี้จะมีเส้นเลือดแดงจำนวนมากในบริเวณนั้น และไม่เป็นที่แน่ชัดนักว่า ผิวหนังที่มีลักษณะคล้ายขนนี้มีไว้เพื่อประโยชน์อะไร แต่ คาดว่ามีเพื่อเพิ่มพื้นที่ผิวให้มากขึ้นเพื่อให้ออกซิเจนซึมผ่านผิวหนังได้ ดีขึ้น
  • แต่สิ่งที่ทำให้มันโด่งดัง และสร้างความสงสัยยิ่งให้เหล่านักวิทยาศาสตร์ที่สุดก็คือ กงเล็บของ พวกมัน ที่จะเป็นกระดูกฝังอยู่ในผิวหนัง กงเล็บเหล่านี้เชื่อมต่อด้วยกล้ามเนื้อ และจะแทงทะลุผิวออกมาเมื่อพวกมันถูกคุกคาม หรือทำให้ตกใจ เพื่อใช้ปัองกันตัว แต่ ก็มีบางแนวที่คิดว่ากงเล็บนี้มีไว้สำหรับ เพื่อให้พวกมันปีนป่ายได้ดีอย่างมั่นคง
คลังภาพ


จะเห็นว่าที่ปลายนิ้วของ กบขน จะมี กงเล็บ แหลมคมแทงทะลุผิวหนังออกมา

อันนี้ สแกนให้ดูกันชัดๆไปเลยถึง ลักษณะกงเล็บของพวกมัน

นี้คือ หอก ที่ชาวแคเมอรูน ใช้ในการล่ากบขน และในมือขวาของเขาก็คือซาก กบขน

ข้อมูลอ้างอิง
  • http://en.wikipedia.org/wiki/Hairy_Frog
  • http://www.newscientist.com/article/dn13991-horror-frog-breaks-own-bones-to-produce-claws.html



พลาสเตอร์ปิดแผล อัจฉริยะ (intelligent plasters)

สิ่งประดิษฐ์ สุดเจ๋ง

ใช้ พลาสเตอร์ปิดแผล ก็เพื่อป้องกันไม่ให้บาดแผลสกปรก ติดเชื้อ แต่ หากไม่รักษาความสะอาด ไม่มีการเปลี่ยนพลาสเตอร์ปิดแผลอย่างสม่ำเสมอตามเวลาที่กำหนด พลาสเตอร์อาจจะเป็นแหล่งเชื้อโรคเสียเอง

รายละเอียดเกี่ยวกับ พลาสเตอร์ปิดแผล อัจฉริยะ

  • โดยปกติผิวหนังของร่มนุษย์จะมีค่า pH ต่ำกว่า 5 คือมีสภาพเป็นกรดอ่อนๆ
  • นักวิทยาศาสตร์ได้ประดิษฐ์ พลาสเตอร์ปิดแผลอัจฉริยะ ที่สามารถเปลี่ยนสีได้ เมื่อ แผลอยู่ในสภาพที่มีความเสียงในการจะติดเชื้อ
  • พลาสเตอร์ นี้จะเปลี่ยนสีจากสีเหลือง เป็น สีม่วง เมื่อ ค่า pH มีค่าอยู่ระหว่าง 6.5 ถึง 8.5 เป็นสภาวะที่มักจะเกิดการติดเชื้อขึ้นของบาดแผล
  • พลาสเตอร์ อัจฉริยะนี้ ประดิษฐ์โดย สถาบันวิจัย the Fraunhofer Research Institution for Modular Solid State Technologies ประเทศเยอรมัน
  • โดยหัวหน้างาน วิจัย ด็อกเตอร์ Sabine Trupp ได้กล่าวไว้ว่าทีมงานได้พัฒนาสีย้อมที่จะเกิดปฏิกริยาเมื่อมีการเปลี่ยนแปลง ค่า pH แล้วทำการย้อมติดไว้ที่ พลาสเตอร์ปิดแผล
  • เมื่อแผลไม่เกิดการติดเชื้อก็จะหายเร็วขึ้น ไม่เกิดอาการแทรกซ้อน และไม่เกิดแผลเป็นรุนแรง
  • การทดสอบในเบื้องต้นผ่านไปได้อย่างดี
ข้อมูลอ้างอิง
  • http://www.dailymail.co.uk/health/article-1330415/Intelligent-plasters-turn-purple-wound-healing-properly.html



เพราะรักจึงยอมเปลี่ยนแปลง ของ ปลาการ์ตูน ( Clown fish )

เพราะรัก จึงยอมแปลงเพศ

Clown fish ปลาการ์ตูน เราอาจจะนึกถึง ปลาดีโม่ ของ ดิสนี่ย์ แต่ในโลกแห่งความเป็นจริงนั้น ความรักของพวกมันนั้นแปลกประหลาดยิ่งนัก

รายละเอียดเกี่ยวกับ ความรักของปลาการ์ตูน

  • ปลาการ์ตูนอยู่กันเป็นฝูง โดยใช้ดอกไม้ทะเลเป็นบ้าน และเครื่องป้องกันตัวจากสัตว์นักล่า เป็นสิ่งที่เรารู้ๆกันอยู่
  • ปลาการ์ตูน มีสีส้มสับขาว ก็ที่เรารู้ๆกันอยู่
  • แต่สิ่งที่แปลกของปลาการ์ตูนก็คือ เรื่องราวการครองคู่ของพวกมัน
  • โดยแรกเริ่มที่พวกมันฟักออกมาจากไข่ พวกมันยังอยู่ในช่วงไร้เพศ
  • เมื่อ พวกมันเข้าไปอาศัยอยู่ในดอกไม้ทะเล และมีการจัดตั้งเป็นฝูงจะเริ่มมีการลำดับชั้นภายในฝูง โดยเมื่อเข้าสู่ช่วงโตเต็มวัยตัวที่แข็งแรงที่สุดใหญ่ที่สุดจะพัฒนาไปเป็น ปลาการ์ตูนเพศเมียเพียงตัวเดียวในฝูง คือ มีรังไข่ (ตัวเมียคือตัวที่ใหญ่ที่สุด และสีสันไม่สดใส)
  • ส่วนปลาการ์ตูน ที่มีขนาดใหญ่รองลงอันดับที่ 2 จะพัฒนาเป็นเพศผู้สมบูรณ์ คือ มี สเปริ์ม
  • ส่วนปลาการ์ตูน ที่เหลือจะเป็นเพศผู้ไม่สมบูรณ์ คือ ไม่มีน้ำเชื้อ ผสมพันธุ์ไม่ได้ (ไร้น้ำยา)
  • แต่ สิ่งที่แปลกประหลาดนั้นยังไม่จบสิ้น หากฮาเร็มแห่งนี้ เกิดตัวเมียเจ๊ใหญ่ตายขึ้นมา ตัวผู้ขั้นสมบูรณ์ หรือ ตัวผู้ไร้น้ำยาที่ต่อสู้ชนะตัวผู้ขั้นสมบูรณ์ จะได้รับสิทธิ์ในการเปลี่ยนเพศเป็น ตัวเมีย ตัวใหม่ขึ้นครอบครอง ฮาเร็ม แห่งนี้ตัวใหม่
ข้อมูลอ้างอิง
  • http://en.wikipedia.org/wiki/Clownfish



แมลงประหลาด มีหัวเป็น ถั่วลิสง (Peanut-Head bug )

แมลงประหลาด

จะ ไม่เป็นแมลงประหลาดได้อย่างไร ในเมื่อมันมีหัวเหมือนถั่วลิสง แล้วทำไมมันจึงต้องมีหัวที่มีรูปร่างประหลาดเช่นนี้ ทั้งที่มันดูเกะกะเสียมากกว่าในการดำเนินชีวิต ของ พวกมัน


รายละเอียดเกี่ยวกับ แมลงประหลาด

  • แมลงประหลาดนี้อยู่ในวงศ์(Family) Fulgoridae ในตระกูล(Homoptera)
  • แมลงในวงศ์ Fulgoridae จะมีลักษณะเด่นคือส่วนหน้าของหัว ที่มีขนาดใหญ่คล้าย ถั่วลิสง ซึ่งทำให้เป็นที่มาของชื่อพวกมัน
  • พวกมันมีขนาดเมื่อโตเต็มวัย ยาวประมาณ 8 เซ็นติเมตร
  • พวกมันไม่กัด มีปากเป็นหลอดเล็กไว้ดูน้ำเลี้ยงพืช ไม่มีอันตราย ไม่มีอาวุธที่จะปกป้องตัวเองเลย ทำให้หัวขนาดใหญ่ถ้าจึงเป็น อวัยวะสำหรับป้องกันตัวของพวกมัน โดยใช้ลวงเหล่านักล่า
  • เหล่านักวิทายาศาสตร์ คาดการณ์ว่าหัวรูปร่างประหลาดนี้ มีไว้เพื่อให้นักล่า เข้าใจผิดคิดว่าหัวขนาดใหญ่นี้คือ หัวกิ้งก่า หรือ หัวงู ทำให้นักล่ากินแมลงล่าถอยเมื่อพบพวกมัน
  • แต่ จักจั่นหัวถั่วลิง ลงยังมีรูปแบบการป้องกันตัวอื่นอีก เช่น บนด้านหลังปีกของพวกมันมีจุดวงกลมขนาดใหญ่สีแดงดำ ทำให้เหมือนดวงตาขนาดใหญ่ เมื่อพวกมันกางปีก ทำให้นักล่าที่จะลอบโจมตีทางด้านหลัง ต้องชะงักไปเนื่องจากเข้าใจผิดคิดว่า กำลังถูกสัตว์ขนาดใหย่จ้องอยู่
  • แต่ ยังยังไม่หมด ถ้าการลวงทั้งหมดยังใช้ไม่ได้ผล พวกมันยังสามารถพ่นสเปย์ ที่มีกลิ่นที่เหม็นสุดทน เหมือน สกั้ง(Skunk) คงไม่มีใครอยากกินอะไรที่กลิ่นเหม็นสุดยอดเช่นนี้
  • ในบางพื้นที่ยังมีความเชื่อผิดๆว่า หัวขนาดใหญ่ของพวกมันสามารถเปล่งแสงได้ เหมือนโคมไฟในเวลากลางคืน

เมื่อ จักจั่นหัวถั่วลิสงกางปีก จะเหมือนมีดวงตาขนาดใหญ่กำลังจ้องมองอยู่

ข้อมูลอ้างอิง
  • http://ambergriscaye.com/photogallery/090806.html
  • http://picasaweb.google.com/lh/photo/yaKEUkbW1-VLiwFHeXInUA